SPYWAREfighter จะสแกนหาไวรัสได้ต่อเมื่อมีโปรแกรม VIRUSfighter ติดตั้งอยู่ในคอมด้วยเท่านั้น ถ้าคุณติดตั้ง VIRUSfighter เราก็ขอแนะนำลูกค้าว่าอย่าติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวอื่นเสริมเข้าไปด้วยเด็ดขาดเพราะมันจะทำให้เครื่องของคุณรวน แต่ถ้าคุณติดตั้งเพียงแค่ SPYWAREfighter จากเรา คุณสามารถมีโปรแกรมต้านไวรัสตัวอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัทเราติดตั้งไว้ได้ (และเราขอแนะนำให้มีโปรแกรมต้านไวรัสไว้ในเครื่องเสมอ) เพื่อความปลอดภัย

VIRUSfighter จะสแกนหาสปายแวร์ (เป็นตัวเลือกพิเศษ) ต่อเมื่อคุณมี SPYWAREfighter ติดตั้งอยู่ในเครื่องด้วยเท่านั้น นี่เป็นชุด “สูท” ของซอฟท์แวร์ SPAMfighter จากเรา เพราะฉะนั้นคุณจะต้องติดตั้งโปรแกรมทั้งสองตัวเพื่อป้องกันคุณจากไวรัสและสปายแวร์

ด้วยเหตุผลความมั่นคง เมื่อ SPYWAREfighter และ VIRUSfighter ถูกติดตั้งมาร่วมกัน เมื่ออีกตัวได้รับการอัพเดท อีกตัวก็อัพเดทโดยอัตโนมัติไปแล้วด้วย เพราะฉะนั้นถ้าอัพเดทตัวหนึ่งมันก็จะอัพเดททั้งสองตัว

นี่เป็นปัญหาที่ทราบอยู่แล้ว: รีสตาร์ท VIRUSfighter และเลือก “สแกน” จากอินเตอร์เฟสผู้ใช้ และรายละเอียดการสแกนจะแสดงออกมาให้เห็น ฟังก์ชันการทำงานไม่ได้เป็นความบกพร่อง แต่ปัญหาอินเตอร์เฟสผู้ใช้ จะได้รับการแก้ไขในเวอร์ชั่นถัดไปของผลิตภัณฑ์

ด้วยเหตุผลความมั่นคง เมื่อ SPYWAREfighter และ VIRUSfighter ถูกติดตั้งมาร่วมกัน และตัวใดตัวหนึ่งถูกลบออก อีกตัวก็จะหยุด ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อการลบออกเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ การสแกนก็จะเริ่มดำเนินการต่อทันที

แปลว่ามีอัพเดท VIRUSfighter ให้คุณและแนะนำให้คุณคลิกยอมรับการอัพเดท VIRUSfighter ไปเวอร์ชั่นล่าสุด

คุณจะต้องดาวน์โหลดโปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์จากเวบไซต์ของเรา

เพื่อทำให้โปรแกรม VIRUSfighter ทำงานอีกครั้ง กรุณาปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ :
ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Configuration Editor

กรอกรหัสผ่านที่แสดงบนใบแสดงราคาสินค้าของคุณ จากนั้นแทนที่รหัสผ่านในรอบทดลองใช้ด้วยรหัสผ่านใหม่ที่คุณได้รับ

คลิกที่ “Save” และ “Close”

หลังจากนั้นคุณจะต้องอัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter เพื่อให้ข้อมูลสิทธิ์การใช้ของคุณอัพเดท เพื่อทำตามนี้ ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Internet Update

ไปที่ “Start” -> “Programs” -> “VIRUSfighter” -> “Configurations Editor”
เลือก “Common Settings” ข้างใต้ ‘VIRUSfighter’
คลิก “Add” และพิมพ์ ตัวอย่างเช่น *.jpg แล้วคลิก “OK”
เลือก “On-demand scanner” -> “Scanner”
คลิกเช็คที่ “Files to omit” ข้างใต้ ‘Omit from Scanning’
เลือก “Save” และ “Close”

ตอนนี้โปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ ก็จะไม่สแกนไฟล์ jpeg ของคุณอีกต่อไป

คุณอาจจะต้องการหยุดการทำงานของ On-access scanner เมื่อคุณแสดง system maintenance task (ตารางแสดงการดูแลรักษาระบบ) มันจะไม่เริ่มทำงานใน session ปัจจุบัน หรือหลังจากรีบูทเครื่องคอมพิวเตอร์ ยกเว้นแต่ว่าคุณจะเปิดการทำงานของมันด้วยตัวเอง เมื่อคุณหยุดการทำงานของ On-access scanner คุณสามารถ หยุด/เริ่มการทำงานของ On-access scanner จากคำสั่งที่แยกไว้ที่ tray icon menu (แถบคำสั่งด้านล่างขวามุมหน้าจอ) หรือจาก Configuration editor

เปิด Configuration editor ไปที่ Components module ใน VIRUSfighter configuration tree และคลิกที่เช็ค On-access scanner ออกจากหน้าต่างรายการของ Start

เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรม VIRUSfighter:
* ดาวน์โหลดโปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ ที่นี่
* บันทึกไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น desktop
* เมื่อโหลดเสร็จแล้วดับเบิ้ลคลิกบนไฟล์ .exe และปฏิบัติตามขั้นตอนการติดตั้ง

เพื่ออัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter ของคุณ กรุณาปฏิบัติ ดังนี้:

ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Internet Update
จะมีหน้าต่างเล็กๆปรากฏขึ้นมา และเมื่อคุณคลิกบน OK อัพเดทจะเริ่มทำงาน

คุณยังสามารถอัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter ถ้าคุณใช้ VIRUSfighter’s quick menu:

คลิกขวาบน VIRUSfighter icon (หมวกนิรภัยเล็กๆบนๆบน systray ของคุณ) และเลือก Internet Update

ถ้าคคุณไม่สามารถอัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter เหตุุผลอาจเนื่องจากไฟร์วอลล์ของคุณกำลังบลอคไวรัสไฟท์เตอร์ หรือคุณอาจจะไม่ออนไลน์

มันสำคัญมากที่คุณจะต้องทำการเชื่อมต่ออินเตอเนตก่อนที่คุณจะเริ่มอัพเดท ถ้าคุณใช้ modem หรือ ISDN คุณสามารถทำตามนี้ได้โดยเปิดหน้าอินเตอเนต

ถ้าคุณถูกป้องกันจาก firewall คุณจะต้องทำการตั้งค่าไฟร์วอลล์ของคุณเพื่อให้ C:VIRUSfighterBinNiu.exe สามารถเข้าสู่อินเตอเนต

โปรแกรม VIRUSfighter สามารถใช้ได้ 30 วัน หลังจากรอบทดลองใช้ 30 วัน คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณต้องการสั่งซื้อโปรแกรม VIRUSfighter PRO หรือยกเลิกการติดตั้ง ถ้าคุณเริ่มใช้โปรแกรม VIRUSfighter โดยไม่สั่งซื้อสิทธิ์การใช้ คุณจะไม่สามารถอัพเดทและจะไม่สามารถป้องกันการคุกคามและไวรัสใหม่ๆได้อีกต่อไป

ดูเหมือนว่าคุณลงโปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ ลงบน anti-virus application ตัวอื่น ที่ไมได้ถูกลบโดยอัตโนมัติจากระบบระหว่างยกเลิกการติดตั้ง คุณจะต้องตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณใหม่และเริ่มระบบใหม่ใน Safe-Mode เมื่อ Safe-Mode ยกเลิกการติดตั้ง anti-virus ตัวเก่า จาก Windows Control Panel และรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

เพื่อไปยัง Windows Safe Mode:
เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังบูทติ้ง (และก่อนที่หน้าจอ Windows จะแสดงขึ้นมา) คุณจะถูกถามว่าจะไปที่คำสั่งเลือกระหว่างที่เครื่องทำการบูทติ้งหรือไม่ โดยกดคีย์ฟังก์ชั่นบนแป้นพิมพ์ของคุณ ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบประมวลผลของคุณ กรุณาปฏิบัติตามนี้ :

สำหรับผู้ใช้ Windows 95 / 98 / Me: ระหว่างที่เครื่องคอมพิวเตอร์กำลังบูทติ้ง ให้คุณกดปุ่ม F8 ใน Windows Startup menu เลือก option 3 (Safe Mode) โดยกดปุ่ม 3 แล้วกด Enter

สำหรับผู้ใช้ Windows 2000 / XP : ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังบูทติ้ง ให้กด F8 ใน Windows Advanced Options Menu ใช้ปุ่มลูกศรของคุณเลื่อนลงมายัง Safe Mode แล้วกด Enter

Windows NT: ไม่มีปุ่มที่สามารถทำตามคำสั่งเหล่านี้ได้

เพื่อทำการเข้าใช้ โปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ กรุณาปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ :
ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Configuration Editor

กรอกรหัสสินค้าที่แสดงอยู่บนใบแจ้งราคาสินค้าของคุณและ กรอกรหัสใหม่ที่คุณสั่งซื้อนี้แทนรหัสในรอบทดลองใช้ จากนั้นคลิก “Save” แล้ว “Close”

หลังจากนั้นคุณต้องทำการอัพเดทโปรกรมไวรัสไฟท์เตอร์ เพื่อให้ข้อมูลสิทธิ์การใช้ของคุณได้รับการอัพเดท เพื่อทำการอัพเดท กรุณาปฏิบัติดังนี้ : ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Internet Update

เพื่อยกเลิกการเป็นสมาชิกจดหมายข่าวที่ถูกส่งมาจากไวรัสไฟท์เตอร์ กรุณา คลิกที่นี่

คุณควรจะยกเลิกการติดตั้งหรือปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่น ก่อนทำการติดตั้งโปรแกรม VIRUSfighter
มีโปรแกรมป้องกันไวรัสสองโปรแกรมทำงานพร้อมกันอาจก่อให้เกิดปัญหาได้

เพื่อทำการลบโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นทิ้ง ไปที่: Start Menu > Control Panel > Add/Remove Programs เลือกโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวเก่าองคุณแล้วคลิก Remove

เพื่อยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม VIRUSfighter กรุณาปฏิบัติตามนี้:
* ไปที่ : Start -> Settings -> Control Panel -> Add/Remove Programs.
* เลือก VIRUSfighter และคลิก Change/Remove แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนที่แสดงขึ้นมา

คุณจะต้องดาวน์โหลดโปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์จากเวบไซต์ของเรา

เพื่อทำให้โปรแกรม VIRUSfighter ทำงานอีกครั้ง กรุณาปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ :
ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Configuration Editor

กรอกรหัสผ่านที่แสดงบนใบแสดงราคาสินค้าของคุณ จากนั้นแทนที่รหัสผ่านในรอบทดลองใช้ด้วยรหัสผ่านใหม่ที่คุณได้รับ

คลิกที่ “Save” และ “Close”

หลังจากนั้นคุณจะต้องอัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter เพื่อให้ข้อมูลสิทธิ์การใช้ของคุณอัพเดท เพื่อทำตามนี้ ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Internet Update

แปลว่ามีอัพเดท VIRUSfighter ให้คุณและแนะนำให้คุณคลิกยอมรับการอัพเดท VIRUSfighter ไปเวอร์ชั่นล่าสุด

ด้วยเหตุผลความมั่นคง เมื่อ SPYWAREfighter และ VIRUSfighter ถูกติดตั้งมาร่วมกัน และตัวใดตัวหนึ่งถูกลบออก อีกตัวก็จะหยุด ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อการลบออกเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ การสแกนก็จะเริ่มดำเนินการต่อทันที

นี่เป็นปัญหาที่ทราบอยู่แล้ว: รีสตาร์ท VIRUSfighter และเลือก “สแกน” จากอินเตอร์เฟสผู้ใช้ และรายละเอียดการสแกนจะแสดงออกมาให้เห็น ฟังก์ชันการทำงานไม่ได้เป็นความบกพร่อง แต่ปัญหาอินเตอร์เฟสผู้ใช้ จะได้รับการแก้ไขในเวอร์ชั่นถัดไปของผลิตภัณฑ์

ด้วยเหตุผลความมั่นคง เมื่อ SPYWAREfighter และ VIRUSfighter ถูกติดตั้งมาร่วมกัน เมื่ออีกตัวได้รับการอัพเดท อีกตัวก็อัพเดทโดยอัตโนมัติไปแล้วด้วย เพราะฉะนั้นถ้าอัพเดทตัวหนึ่งมันก็จะอัพเดททั้งสองตัว

VIRUSfighter จะสแกนหาสปายแวร์ (เป็นตัวเลือกพิเศษ) ต่อเมื่อคุณมี SPYWAREfighter ติดตั้งอยู่ในเครื่องด้วยเท่านั้น นี่เป็นชุด “สูท” ของซอฟท์แวร์ SPAMfighter จากเรา เพราะฉะนั้นคุณจะต้องติดตั้งโปรแกรมทั้งสองตัวเพื่อป้องกันคุณจากไวรัสและสปายแวร์

SPYWAREfighter จะสแกนหาไวรัสได้ต่อเมื่อมีโปรแกรม VIRUSfighter ติดตั้งอยู่ในคอมด้วยเท่านั้น ถ้าคุณติดตั้ง VIRUSfighter เราก็ขอแนะนำลูกค้าว่าอย่าติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสตัวอื่นเสริมเข้าไปด้วยเด็ดขาดเพราะมันจะทำให้เครื่องของคุณรวน แต่ถ้าคุณติดตั้งเพียงแค่ SPYWAREfighter จากเรา คุณสามารถมีโปรแกรมต้านไวรัสตัวอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัทเราติดตั้งไว้ได้ (และเราขอแนะนำให้มีโปรแกรมต้านไวรัสไว้ในเครื่องเสมอ) เพื่อความปลอดภัย

เพื่อยกเลิกการเป็นสมาชิกจดหมายข่าวที่ถูกส่งมาจากไวรัสไฟท์เตอร์ กรุณา คลิกที่นี่

เพื่อทำการเข้าใช้ โปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ กรุณาปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้ :
ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Configuration Editor

กรอกรหัสสินค้าที่แสดงอยู่บนใบแจ้งราคาสินค้าของคุณและ กรอกรหัสใหม่ที่คุณสั่งซื้อนี้แทนรหัสในรอบทดลองใช้ จากนั้นคลิก “Save” แล้ว “Close”

หลังจากนั้นคุณต้องทำการอัพเดทโปรกรมไวรัสไฟท์เตอร์ เพื่อให้ข้อมูลสิทธิ์การใช้ของคุณได้รับการอัพเดท เพื่อทำการอัพเดท กรุณาปฏิบัติดังนี้ : ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Internet Update

ดูเหมือนว่าคุณลงโปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ ลงบน anti-virus application ตัวอื่น ที่ไมได้ถูกลบโดยอัตโนมัติจากระบบระหว่างยกเลิกการติดตั้ง คุณจะต้องตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณใหม่และเริ่มระบบใหม่ใน Safe-Mode เมื่อ Safe-Mode ยกเลิกการติดตั้ง anti-virus ตัวเก่า จาก Windows Control Panel และรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

เพื่อไปยัง Windows Safe Mode:
เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังบูทติ้ง (และก่อนที่หน้าจอ Windows จะแสดงขึ้นมา) คุณจะถูกถามว่าจะไปที่คำสั่งเลือกระหว่างที่เครื่องทำการบูทติ้งหรือไม่ โดยกดคีย์ฟังก์ชั่นบนแป้นพิมพ์ของคุณ ซึ่งขึ้นอยู่กับระบบประมวลผลของคุณ กรุณาปฏิบัติตามนี้ :

สำหรับผู้ใช้ Windows 95 / 98 / Me: ระหว่างที่เครื่องคอมพิวเตอร์กำลังบูทติ้ง ให้คุณกดปุ่ม F8 ใน Windows Startup menu เลือก option 3 (Safe Mode) โดยกดปุ่ม 3 แล้วกด Enter

สำหรับผู้ใช้ Windows 2000 / XP : ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังบูทติ้ง ให้กด F8 ใน Windows Advanced Options Menu ใช้ปุ่มลูกศรของคุณเลื่อนลงมายัง Safe Mode แล้วกด Enter

Windows NT: ไม่มีปุ่มที่สามารถทำตามคำสั่งเหล่านี้ได้

โปรแกรม VIRUSfighter สามารถใช้ได้ 30 วัน หลังจากรอบทดลองใช้ 30 วัน คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณต้องการสั่งซื้อโปรแกรม VIRUSfighter PRO หรือยกเลิกการติดตั้ง ถ้าคุณเริ่มใช้โปรแกรม VIRUSfighter โดยไม่สั่งซื้อสิทธิ์การใช้ คุณจะไม่สามารถอัพเดทและจะไม่สามารถป้องกันการคุกคามและไวรัสใหม่ๆได้อีกต่อไป

เพื่ออัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter ของคุณ กรุณาปฏิบัติ ดังนี้:

ไปที่ Start -> All Programs -> VIRUSfighter -> Internet Update
จะมีหน้าต่างเล็กๆปรากฏขึ้นมา และเมื่อคุณคลิกบน OK อัพเดทจะเริ่มทำงาน

คุณยังสามารถอัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter ถ้าคุณใช้ VIRUSfighter’s quick menu:

คลิกขวาบน VIRUSfighter icon (หมวกนิรภัยเล็กๆบนๆบน systray ของคุณ) และเลือก Internet Update

ถ้าคคุณไม่สามารถอัพเดทโปรแกรม VIRUSfighter เหตุุผลอาจเนื่องจากไฟร์วอลล์ของคุณกำลังบลอคไวรัสไฟท์เตอร์ หรือคุณอาจจะไม่ออนไลน์

มันสำคัญมากที่คุณจะต้องทำการเชื่อมต่ออินเตอเนตก่อนที่คุณจะเริ่มอัพเดท ถ้าคุณใช้ modem หรือ ISDN คุณสามารถทำตามนี้ได้โดยเปิดหน้าอินเตอเนต

ถ้าคุณถูกป้องกันจาก firewall คุณจะต้องทำการตั้งค่าไฟร์วอลล์ของคุณเพื่อให้ C:VIRUSfighterBinNiu.exe สามารถเข้าสู่อินเตอเนต

ไปที่ “Start” -> “Programs” -> “VIRUSfighter” -> “Configurations Editor”
เลือก “Common Settings” ข้างใต้ ‘VIRUSfighter’
คลิก “Add” และพิมพ์ ตัวอย่างเช่น *.jpg แล้วคลิก “OK”
เลือก “On-demand scanner” -> “Scanner”
คลิกเช็คที่ “Files to omit” ข้างใต้ ‘Omit from Scanning’
เลือก “Save” และ “Close”

ตอนนี้โปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ ก็จะไม่สแกนไฟล์ jpeg ของคุณอีกต่อไป

คุณอาจจะต้องการหยุดการทำงานของ On-access scanner เมื่อคุณแสดง system maintenance task (ตารางแสดงการดูแลรักษาระบบ) มันจะไม่เริ่มทำงานใน session ปัจจุบัน หรือหลังจากรีบูทเครื่องคอมพิวเตอร์ ยกเว้นแต่ว่าคุณจะเปิดการทำงานของมันด้วยตัวเอง เมื่อคุณหยุดการทำงานของ On-access scanner คุณสามารถ หยุด/เริ่มการทำงานของ On-access scanner จากคำสั่งที่แยกไว้ที่ tray icon menu (แถบคำสั่งด้านล่างขวามุมหน้าจอ) หรือจาก Configuration editor

เปิด Configuration editor ไปที่ Components module ใน VIRUSfighter configuration tree และคลิกที่เช็ค On-access scanner ออกจากหน้าต่างรายการของ Start

เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรม VIRUSfighter:
* ดาวน์โหลดโปรแกรมไวรัสไฟท์เตอร์ ที่นี่
* บันทึกไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น desktop
* เมื่อโหลดเสร็จแล้วดับเบิ้ลคลิกบนไฟล์ .exe และปฏิบัติตามขั้นตอนการติดตั้ง

เพื่อยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม VIRUSfighter กรุณาปฏิบัติตามนี้:
* ไปที่ : Start -> Settings -> Control Panel -> Add/Remove Programs.
* เลือก VIRUSfighter และคลิก Change/Remove แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนที่แสดงขึ้นมา

คุณควรจะยกเลิกการติดตั้งหรือปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่น ก่อนทำการติดตั้งโปรแกรม VIRUSfighter
มีโปรแกรมป้องกันไวรัสสองโปรแกรมทำงานพร้อมกันอาจก่อให้เกิดปัญหาได้

เพื่อทำการลบโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวอื่นทิ้ง ไปที่: Start Menu > Control Panel > Add/Remove Programs เลือกโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวเก่าองคุณแล้วคลิก Remove